พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
สมเด็จองค์ปฐม ร...
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5.1 (รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5.1 (รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่อพระภาวนากิจวิมล (หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบัน ต่อจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

สร้างด้วยชนวนสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เข้าพิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 28 ม.ค 2555 เป็นวันเสาร์ 5 ฤกษ์พรหมประสิทธิ์

ในวันนั้นทางวัดได้จัดงานพร้อมกัน 2งาน คือ
1)งานอัญเชิญพระศพพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานกลับสู่วิหารร้อยเมตร
2)งานพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปจำลองสมเด็จองค์ปฐมรุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่อพระภาวนากิจวิมล (อนันต์ พุทธญาโณ)

*********************************************

สำหรับพระสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้ ทางวัดได้มอบหมายให้ช่างธานีเป็นคนแกะพิมพ์และจัดสร้าง องค์พระมีรายละเอียดงดงาม แต่มีเหตุขัดข้องบางประการ..ซึ่งทำให้ช่างใช้เวลาแกะพิมพ์นานถึง ๗ เดือน พระที่ทางวัดสั่งไว้ถูกส่งมาไม่ครบตามที่สั่งในล็อตแรก พระหล่อผสมด้วยชนวนสมเด็จองค์ปฐม ใต้ฐานบรรจุพระเกศาหลวงพ่อ และมวลสารสำคัญ และปั๊มยันต์ด้วยหมึกสีน้ำเงินในพระทุกๆเนื้อที่ส่งทันในล็อตแรก เพื่อเป็นการง่ายต่อการพูดชื่อรุ่น เราจะเรียกรุ่นนี้ว่า “สมเด็จองค์ปฐม รุ่น5.1”

หมายเหตุ: พระพิมพ์เดียวกันที่ถูกส่งมาในล็อตหลัง มีจุดที่ทางวัดแยกให้เห็นข้อแตกต่างคือ ใต้ฐานจะปั๊มยันต์ด้วยหมึกสีแดง (แทนหมึกสีน้ำเงิน) เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดท่าซุง เมื่องานเสาร์๕ ที่ 23 มิถุนายน 2555 พร้อมกับสมเด็จองค์ปฐมที่จัดสร้างจากช่างอีกชุด (งานแพรนด้า “ก้นถ้วย”) ซึ่งรุ่นนั้นจะเรียกว่า “สมเด็จองค์ปฐม รุ่น5.2”

**************************************************************************************************************

ประวัติการสร้างรูปหล่อลอยองค์ สมเด็จองค์ปฐม รุ่น5

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๕ ที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมล หลังจากหลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูปลัดสุวัฒนสมาธิคุณ” เป็นที่คาดการณ์กันภายในว่าตำแหน่งนี้พระผู้ใหญ่ท่านน่าจะมอบให้เพื่อรองรับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ทางคณะสงฆ์วัดท่าซุงจึงได้หารือกันและได้มีมติให้จัดสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกในการรับสมณศักดิ์ครั้งนี้ โดยสร้างเป็นรูปจำลองสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม และได้ให้ช่างแกะพิมพ์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วเสร็จเดือนกันยายนปีเดียวกัน
จากนั้นนำมาให้ช่างหล่อทำการถอดพิมพ์และหล่อเป็นเนื้อเงินออกมาจำนวนประมาณ ๔๐ องค์ เพื่อนำมาคัดเลือกหาองค์ที่มีความสมบูรณ์ไม่มีตำหนิ ได้ประมาณ ๑๐ องค์ นำมายิงเลเซอร์ตัวหนังสือ ยันต์และอักขระต่างๆ ที่ฐานด้านหน้า ด้านหลังและใต้ฐาน แล้วจึงคัดองค์ที่งามที่สุด ๒-๓ องค์ มาเป็นแม่พิมพ์สุดท้าย ขั้นตอนนี้ในสถานการณ์ปกติจะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ทำให้งานล่าช้าไปมาก กว่าจะตั้งเครื่องเริ่มทำงานได้ก็ราวปลายเดือนธันวาคม แต่เนื่องจากองค์พระและเส้นยันต์มีลายละเอียดมากทำให้เกิดปัญหาหล่อติดบ้างไม่ติดบ้าง

ทางวัดจึงขอให้ช่างทำให้สมบูรณ์ที่สุด ทางช่างเองก็พยายามแก้ปัญหาโดยสั่งซื้อเครื่องใหม่มาลง ก็พอแก้กันไปได้ทีละส่วน งานก็พอเดินไปได้ ปัญหาตรงนี้แตกต่างจากการสร้างสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๔ ครั้งนั้นหล่ออย่างไรก็ไม่ติด (ช่างเจ้าเดียวกัน) จนต้องนำบายศรีไปกราบขออนุญาตสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมที่วิหารอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าหล่อติดทุกองค์รวมถึงองค์ที่ทำพิมพ์สำรองไว้ก็ติดสมบูรณ์ทั้งหมด พอมารุ่นนี้หล่อได้ แต่จำนวนไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ค่อยๆขยับไปได้ทีละนิด จนช่างต้องขอให้ทางวัดลองหาโรงงานอื่นเผื่อไว้ เพราะมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้จำนวนตามที่ต้องการ

ทางวัดได้ติดต่อช่างที่มีชื่อเสียงอีก ๒ แห่ง หนึ่งในนั้นเป็นช่างที่วงการสร้างพระให้การยอมรับว่าเป็นมือ ๑ ในการสร้างพระกริ่งระดับประเทศ ได้ทำการทดลองหล่อพระตัวอย่างมาดูทั้ง ๒ แห่ง ปรากฏว่าสู้ช่างที่หล่อเจ้าแรกไม่ได้ จึงเป็นอันล้มเลิกไป เดินหน้าหล่อเจ้าเดียวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะว่าเจ้าเดียวก็ไม่เชิง เพราะระหว่างที่หาช่างเสริม ทางวัดได้ลองให้โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ทที่หล่อพระพุทธไสยาสน์ให้กับทางวัด ลองหล่อตัวอย่างดู ปรากฏว่าช่างที่ทำแต่งานใหญ่ๆ มาตลอด สามารถหล่อพระองค์เล็กๆ ได้ละเอียดงดงามไม่แพ้ใคร และดูเหมือนจะหล่อได้ดีกว่าช่างเจ้าแรกด้วยซ้ำ แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าไม่สามารถเร่งปริมาณได้ จึงทำให้มีเนื้อสัมฤทธิ์นอกมาแค่เพียงส่วนหนึ่ง สำหรับ โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ท นั้นนอกจากจะหล่อเนื้อสัมฤทธิ์นอกแล้ว ทางวัดยังได้มอบหมายให้สร้างด้วยเนื้อโลหะพิเศษขึ้นมาจำนวนหนึ่ง

โดย คุณพงศ์พิชญ์ วงศ์โสภณศิริ เป็นผู้รวบรวมโลหะต่างๆมูลค่ากว่า ๕ แสนบาท ถวายวัดสำหรับใช้ในการจัดสร้าง ได้พระจำนวนประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ และเหลือเนื้อโลหะที่เป็นชนวนอีกส่วนหนึ่ง

โลหะต่างๆ นั้น คุณพงศ์พิชญ์ ได้เก็บรวบรวมมาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยแรกเริ่มตั้งใจสร้างเป็นเนื้อนวโลหะซึ่งประกอบด้วยโลหะ ๙ ชนิดประกอบกัน แต่ภายหลังมีโอกาสได้เก็บโบราณวัตถุต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนพระพุทธรูปสมัยโบราณ เงินสัมฤทธิ์โบราณ และโบราณวัตถุที่มีคุณค่าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อหล่อเป็นองค์พระออกมาแล้ว ทำให้มีสีสันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ พระส่วนใหญ่จะหล่อได้ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ถึงแม้จะหล่อแบบสุญญากาศแล้วก็ตาม เนื่องจากส่วนผสมของโลหะมีความหนืดกว่าปกติทั่วไปมาก และเนื้อพิเศษนี้อุดใต้ฐานองค์พระด้วยมวลสารที่เจ้าภาพถวายมาโดยเฉพาะ อาทิเช่น ผงชิ้นส่วนพระเบญจภาคี ครบ ๕ วัด เป็นต้น จำนวน ๒ กระปุก โดยใช้มวลสารของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นมวลสารหลัก

ในส่วนเงินสัมฤทธิ์โบราณที่นำมาหลอมสร้างพระในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเงินโบราณของประเทศจีนที่มีอายุนับพันปี หลากหลายราชวงศ์ แต่ที่มากเป็นพิเศษได้แก่ ราชวงศ์โจว (ยุคหลัง) อายุประมาณ ๑ พันปี เนื่องจากมีประวัติความเป็นมาแตกต่างจากเงินของราชวงศ์อื่นๆ กล่าวคือ ช่วงระยะเวลาที่ราชวงศ์นี้ขึ้นปกครองประเทศจีนนั้น มีศึกสงครามต่อเนื่อง ฮ่องเต้จึงคิดวิธีหาเงินใช้จ่ายในการรบ โดยนำพระพุทธรูปตามวัดต่างๆมาหลอมเป็นเงิน ท่ามกลางการทัดทานของเหล่าขุนนาง แต่ฮ่องเต้ก็สามารถยกเหตุผลมาอธิบายจนทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ และคาดว่าน่าจะเป็นเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ราชวงศ์โจวอยู่ได้เพียง ๙ ปี ก็ล่มสลาย

เมื่อราชวงศ์ใหม่ขึ้นมาปกครองประเทศมีการผลิตเงินรุ่นใหม่มาใช้แทน ประชาชนจึงนำเหรียญเงินของราชวงศ์โจวมาใช้แขวนติดตัวเพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันภัย และที่นิยมกันมากคือนำมาแช่น้ำเพื่อทำน้ำมนต์สำหรับดื่มรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จนเป็นที่ร่ำลือกันมากถึงความศักดิ์สิทธิ์ในยุคนั้น และนับได้ว่าเป็นเหรียญที่ใช้ทำน้ำมนต์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการบันทึกไว้ ปัจจุบันเหรียญจำนวนมากได้แปรสภาพเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา หลงเหลืออยู่ในรูปโบราณวัตถุจำนวนหนึ่ง ซึ่งคุณพงศ์พิชญ์ได้รวบรวมกลับมาถวายคืนเป็นของสงฆ์เพื่อใช้สร้างพระในครั้งนี้ด้วย

หลังพิธีพุทธาภิเษก ( ๒๘ มค. ๕๕ ) แล้ว ทางวัดได้เร่งช่างให้สร้างพระต่อทันที แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณให้เป็นไปตามต้องการได้ จึงหาช่างเจ้าอื่นให้ช่วยกันทำไปพร้อมๆกัน ซึ่งคราวนี้พอมีเวลาในการคัดเลือกช่างให้เหมาะสมกับงาน โดยมีข้อกำหนดว่าต้องได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ ซึ่ง โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ท นั้นคุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ทางวัดต้องเร่งงานสร้างพระพุทธบาทลายลักษณ์ ๑๐๘ และพระพุทธไสยาสน์เนื้อสัมฤทธิ์ ความยาว ๘ ศอก ให้แล้วเสร็จ จึงได้ตัดงานเล็กออกไปเพื่อให้งานใหญ่เดินได้เต็มที่ หลังจากเสาะหากันพักใหญ่

ในที่สุดจึงมอบหมายให้ บริษัทแพรนด้าจิวเวลรี่ จำกัด(มหาชน) ดำเนินการสร้างควบคู่กันไป (แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าก็ตาม) โดยใช้ต้นแบบองค์เดียวกัน ซึ่งทางโรงงานได้ขออนุญาตแก้ไขพิมพ์ทรงบางส่วน โดยถอดพิมพ์หล่อเป็นเนื้อทองคำ แล้วให้ช่างแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนพระพักตร์ พระเศียร ซุ้มและฐาน เพื่อให้ได้พุทธลักษณะใกล้เคียงกับองค์ใหญ่ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เททองสร้างไว้ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ ให้มากที่สุด

ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งหน้า ( ๒๓ มิย. ๕๕ ) โรงงานทั้ง ๒ แห่งก็รับปากว่าจะพยายามให้ได้ปริมาณมากที่สุด แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ไม่ค่อยไว้วางใจ เนื่องจากการสร้างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักจะไม่เป็นไปตามจำนวนที่ต้องการนัก เช่น สมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ สั่งสร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้จำนวน ๓,๐๐๐ องค์ รุ่น ๒ สั่งสร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้จำนวน ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นต้น สำหรับรุ่นฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมลนั้นสั่งสร้างจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์ เพิ่งได้มาประมาณ ๑๐,๐๐๐ กว่าองค์ แม้ใจลึกๆจะเชื่อว่าจำนวนที่แน่นอนคงถูกกำหนดไว้แล้ว แต่คณะทำงานก็จะใช้ความพยายามในการตามงานช่างหล่อให้มากที่สุดที่จะพึงทำได้ก่อน เมื่อถึงที่สุดแล้วได้เท่าไรก็คงต้องยอมรับ

“เมื่อเราคิดถึงท่าน ท่านก็จะมาอยู่ในใจเรา เมื่อใดที่เรามีทุกข์ร้อนใจ เพียงระลึกถึงคำสอนของท่าน ท่านก็จะมาอยู่ข้างเรา…..”

พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย

web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง

http://www.ponsrithong.99wat.com/

Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507

Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/

IG : https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/

พระล้านนา : http://www.pralanna.com/shop.php?shopuserid=2831
ผู้เข้าชม
3677 ครั้ง
ราคา
1500
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง( บู เชียงราย )
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
282-2-248xx-x

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
kaew กจ.ว.ศิลป์สยามvanglannaponsrithong2ponsrithongยุ้ย พลานุภาพ
เทพจิระศักดา พระเครื่องsomphopTUI789mosnarokมนต์เมืองจันท์
TotoTatoเจริญสุขพีพีพระสมเด็จnatthanetLeksoi8อ้วนโนนสูง
ภูมิ IRหมี คุณพระช่วยNithipornแมวดำ99ErawanPutput
tangmoอาร์ตกำแพงเพชรจิ๊บพุทธะมงคลศิษย์บูรพาเปียโนjazzsiam amulet

ผู้เข้าชมขณะนี้ 586 คน

เพิ่มข้อมูล

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5.1 (รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5.1 (รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
รายละเอียด
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5.1 (รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่อพระภาวนากิจวิมล (หลวงพ่ออนันต์ พุทธญาโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบัน ต่อจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

สร้างด้วยชนวนสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เข้าพิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 28 ม.ค 2555 เป็นวันเสาร์ 5 ฤกษ์พรหมประสิทธิ์

ในวันนั้นทางวัดได้จัดงานพร้อมกัน 2งาน คือ
1)งานอัญเชิญพระศพพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานกลับสู่วิหารร้อยเมตร
2)งานพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปจำลองสมเด็จองค์ปฐมรุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่อพระภาวนากิจวิมล (อนันต์ พุทธญาโณ)

*********************************************

สำหรับพระสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้ ทางวัดได้มอบหมายให้ช่างธานีเป็นคนแกะพิมพ์และจัดสร้าง องค์พระมีรายละเอียดงดงาม แต่มีเหตุขัดข้องบางประการ..ซึ่งทำให้ช่างใช้เวลาแกะพิมพ์นานถึง ๗ เดือน พระที่ทางวัดสั่งไว้ถูกส่งมาไม่ครบตามที่สั่งในล็อตแรก พระหล่อผสมด้วยชนวนสมเด็จองค์ปฐม ใต้ฐานบรรจุพระเกศาหลวงพ่อ และมวลสารสำคัญ และปั๊มยันต์ด้วยหมึกสีน้ำเงินในพระทุกๆเนื้อที่ส่งทันในล็อตแรก เพื่อเป็นการง่ายต่อการพูดชื่อรุ่น เราจะเรียกรุ่นนี้ว่า “สมเด็จองค์ปฐม รุ่น5.1”

หมายเหตุ: พระพิมพ์เดียวกันที่ถูกส่งมาในล็อตหลัง มีจุดที่ทางวัดแยกให้เห็นข้อแตกต่างคือ ใต้ฐานจะปั๊มยันต์ด้วยหมึกสีแดง (แทนหมึกสีน้ำเงิน) เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดท่าซุง เมื่องานเสาร์๕ ที่ 23 มิถุนายน 2555 พร้อมกับสมเด็จองค์ปฐมที่จัดสร้างจากช่างอีกชุด (งานแพรนด้า “ก้นถ้วย”) ซึ่งรุ่นนั้นจะเรียกว่า “สมเด็จองค์ปฐม รุ่น5.2”

**************************************************************************************************************

ประวัติการสร้างรูปหล่อลอยองค์ สมเด็จองค์ปฐม รุ่น5

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๕ ที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมล หลังจากหลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูปลัดสุวัฒนสมาธิคุณ” เป็นที่คาดการณ์กันภายในว่าตำแหน่งนี้พระผู้ใหญ่ท่านน่าจะมอบให้เพื่อรองรับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ทางคณะสงฆ์วัดท่าซุงจึงได้หารือกันและได้มีมติให้จัดสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกในการรับสมณศักดิ์ครั้งนี้ โดยสร้างเป็นรูปจำลองสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม และได้ให้ช่างแกะพิมพ์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วเสร็จเดือนกันยายนปีเดียวกัน
จากนั้นนำมาให้ช่างหล่อทำการถอดพิมพ์และหล่อเป็นเนื้อเงินออกมาจำนวนประมาณ ๔๐ องค์ เพื่อนำมาคัดเลือกหาองค์ที่มีความสมบูรณ์ไม่มีตำหนิ ได้ประมาณ ๑๐ องค์ นำมายิงเลเซอร์ตัวหนังสือ ยันต์และอักขระต่างๆ ที่ฐานด้านหน้า ด้านหลังและใต้ฐาน แล้วจึงคัดองค์ที่งามที่สุด ๒-๓ องค์ มาเป็นแม่พิมพ์สุดท้าย ขั้นตอนนี้ในสถานการณ์ปกติจะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ทำให้งานล่าช้าไปมาก กว่าจะตั้งเครื่องเริ่มทำงานได้ก็ราวปลายเดือนธันวาคม แต่เนื่องจากองค์พระและเส้นยันต์มีลายละเอียดมากทำให้เกิดปัญหาหล่อติดบ้างไม่ติดบ้าง

ทางวัดจึงขอให้ช่างทำให้สมบูรณ์ที่สุด ทางช่างเองก็พยายามแก้ปัญหาโดยสั่งซื้อเครื่องใหม่มาลง ก็พอแก้กันไปได้ทีละส่วน งานก็พอเดินไปได้ ปัญหาตรงนี้แตกต่างจากการสร้างสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๔ ครั้งนั้นหล่ออย่างไรก็ไม่ติด (ช่างเจ้าเดียวกัน) จนต้องนำบายศรีไปกราบขออนุญาตสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมที่วิหารอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าหล่อติดทุกองค์รวมถึงองค์ที่ทำพิมพ์สำรองไว้ก็ติดสมบูรณ์ทั้งหมด พอมารุ่นนี้หล่อได้ แต่จำนวนไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ค่อยๆขยับไปได้ทีละนิด จนช่างต้องขอให้ทางวัดลองหาโรงงานอื่นเผื่อไว้ เพราะมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้จำนวนตามที่ต้องการ

ทางวัดได้ติดต่อช่างที่มีชื่อเสียงอีก ๒ แห่ง หนึ่งในนั้นเป็นช่างที่วงการสร้างพระให้การยอมรับว่าเป็นมือ ๑ ในการสร้างพระกริ่งระดับประเทศ ได้ทำการทดลองหล่อพระตัวอย่างมาดูทั้ง ๒ แห่ง ปรากฏว่าสู้ช่างที่หล่อเจ้าแรกไม่ได้ จึงเป็นอันล้มเลิกไป เดินหน้าหล่อเจ้าเดียวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะว่าเจ้าเดียวก็ไม่เชิง เพราะระหว่างที่หาช่างเสริม ทางวัดได้ลองให้โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ทที่หล่อพระพุทธไสยาสน์ให้กับทางวัด ลองหล่อตัวอย่างดู ปรากฏว่าช่างที่ทำแต่งานใหญ่ๆ มาตลอด สามารถหล่อพระองค์เล็กๆ ได้ละเอียดงดงามไม่แพ้ใคร และดูเหมือนจะหล่อได้ดีกว่าช่างเจ้าแรกด้วยซ้ำ แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าไม่สามารถเร่งปริมาณได้ จึงทำให้มีเนื้อสัมฤทธิ์นอกมาแค่เพียงส่วนหนึ่ง สำหรับ โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ท นั้นนอกจากจะหล่อเนื้อสัมฤทธิ์นอกแล้ว ทางวัดยังได้มอบหมายให้สร้างด้วยเนื้อโลหะพิเศษขึ้นมาจำนวนหนึ่ง

โดย คุณพงศ์พิชญ์ วงศ์โสภณศิริ เป็นผู้รวบรวมโลหะต่างๆมูลค่ากว่า ๕ แสนบาท ถวายวัดสำหรับใช้ในการจัดสร้าง ได้พระจำนวนประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ และเหลือเนื้อโลหะที่เป็นชนวนอีกส่วนหนึ่ง

โลหะต่างๆ นั้น คุณพงศ์พิชญ์ ได้เก็บรวบรวมมาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยแรกเริ่มตั้งใจสร้างเป็นเนื้อนวโลหะซึ่งประกอบด้วยโลหะ ๙ ชนิดประกอบกัน แต่ภายหลังมีโอกาสได้เก็บโบราณวัตถุต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนพระพุทธรูปสมัยโบราณ เงินสัมฤทธิ์โบราณ และโบราณวัตถุที่มีคุณค่าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อหล่อเป็นองค์พระออกมาแล้ว ทำให้มีสีสันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ พระส่วนใหญ่จะหล่อได้ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ถึงแม้จะหล่อแบบสุญญากาศแล้วก็ตาม เนื่องจากส่วนผสมของโลหะมีความหนืดกว่าปกติทั่วไปมาก และเนื้อพิเศษนี้อุดใต้ฐานองค์พระด้วยมวลสารที่เจ้าภาพถวายมาโดยเฉพาะ อาทิเช่น ผงชิ้นส่วนพระเบญจภาคี ครบ ๕ วัด เป็นต้น จำนวน ๒ กระปุก โดยใช้มวลสารของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นมวลสารหลัก

ในส่วนเงินสัมฤทธิ์โบราณที่นำมาหลอมสร้างพระในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเงินโบราณของประเทศจีนที่มีอายุนับพันปี หลากหลายราชวงศ์ แต่ที่มากเป็นพิเศษได้แก่ ราชวงศ์โจว (ยุคหลัง) อายุประมาณ ๑ พันปี เนื่องจากมีประวัติความเป็นมาแตกต่างจากเงินของราชวงศ์อื่นๆ กล่าวคือ ช่วงระยะเวลาที่ราชวงศ์นี้ขึ้นปกครองประเทศจีนนั้น มีศึกสงครามต่อเนื่อง ฮ่องเต้จึงคิดวิธีหาเงินใช้จ่ายในการรบ โดยนำพระพุทธรูปตามวัดต่างๆมาหลอมเป็นเงิน ท่ามกลางการทัดทานของเหล่าขุนนาง แต่ฮ่องเต้ก็สามารถยกเหตุผลมาอธิบายจนทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ และคาดว่าน่าจะเป็นเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ราชวงศ์โจวอยู่ได้เพียง ๙ ปี ก็ล่มสลาย

เมื่อราชวงศ์ใหม่ขึ้นมาปกครองประเทศมีการผลิตเงินรุ่นใหม่มาใช้แทน ประชาชนจึงนำเหรียญเงินของราชวงศ์โจวมาใช้แขวนติดตัวเพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันภัย และที่นิยมกันมากคือนำมาแช่น้ำเพื่อทำน้ำมนต์สำหรับดื่มรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จนเป็นที่ร่ำลือกันมากถึงความศักดิ์สิทธิ์ในยุคนั้น และนับได้ว่าเป็นเหรียญที่ใช้ทำน้ำมนต์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการบันทึกไว้ ปัจจุบันเหรียญจำนวนมากได้แปรสภาพเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา หลงเหลืออยู่ในรูปโบราณวัตถุจำนวนหนึ่ง ซึ่งคุณพงศ์พิชญ์ได้รวบรวมกลับมาถวายคืนเป็นของสงฆ์เพื่อใช้สร้างพระในครั้งนี้ด้วย

หลังพิธีพุทธาภิเษก ( ๒๘ มค. ๕๕ ) แล้ว ทางวัดได้เร่งช่างให้สร้างพระต่อทันที แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณให้เป็นไปตามต้องการได้ จึงหาช่างเจ้าอื่นให้ช่วยกันทำไปพร้อมๆกัน ซึ่งคราวนี้พอมีเวลาในการคัดเลือกช่างให้เหมาะสมกับงาน โดยมีข้อกำหนดว่าต้องได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ ซึ่ง โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ท นั้นคุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ทางวัดต้องเร่งงานสร้างพระพุทธบาทลายลักษณ์ ๑๐๘ และพระพุทธไสยาสน์เนื้อสัมฤทธิ์ ความยาว ๘ ศอก ให้แล้วเสร็จ จึงได้ตัดงานเล็กออกไปเพื่อให้งานใหญ่เดินได้เต็มที่ หลังจากเสาะหากันพักใหญ่

ในที่สุดจึงมอบหมายให้ บริษัทแพรนด้าจิวเวลรี่ จำกัด(มหาชน) ดำเนินการสร้างควบคู่กันไป (แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าก็ตาม) โดยใช้ต้นแบบองค์เดียวกัน ซึ่งทางโรงงานได้ขออนุญาตแก้ไขพิมพ์ทรงบางส่วน โดยถอดพิมพ์หล่อเป็นเนื้อทองคำ แล้วให้ช่างแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนพระพักตร์ พระเศียร ซุ้มและฐาน เพื่อให้ได้พุทธลักษณะใกล้เคียงกับองค์ใหญ่ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เททองสร้างไว้ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ ให้มากที่สุด

ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งหน้า ( ๒๓ มิย. ๕๕ ) โรงงานทั้ง ๒ แห่งก็รับปากว่าจะพยายามให้ได้ปริมาณมากที่สุด แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ไม่ค่อยไว้วางใจ เนื่องจากการสร้างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักจะไม่เป็นไปตามจำนวนที่ต้องการนัก เช่น สมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ สั่งสร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้จำนวน ๓,๐๐๐ องค์ รุ่น ๒ สั่งสร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้จำนวน ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นต้น สำหรับรุ่นฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมลนั้นสั่งสร้างจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์ เพิ่งได้มาประมาณ ๑๐,๐๐๐ กว่าองค์ แม้ใจลึกๆจะเชื่อว่าจำนวนที่แน่นอนคงถูกกำหนดไว้แล้ว แต่คณะทำงานก็จะใช้ความพยายามในการตามงานช่างหล่อให้มากที่สุดที่จะพึงทำได้ก่อน เมื่อถึงที่สุดแล้วได้เท่าไรก็คงต้องยอมรับ

“เมื่อเราคิดถึงท่าน ท่านก็จะมาอยู่ในใจเรา เมื่อใดที่เรามีทุกข์ร้อนใจ เพียงระลึกถึงคำสอนของท่าน ท่านก็จะมาอยู่ข้างเรา…..”

พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย

web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง

http://www.ponsrithong.99wat.com/

Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507

Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/

IG : https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/

พระล้านนา : http://www.pralanna.com/shop.php?shopuserid=2831
ราคาปัจจุบัน
1500
จำนวนผู้เข้าชม
3678 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง( บู เชียงราย )
URL
เบอร์โทรศัพท์
0877124640
ID LINE
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 282-2-248xx-x




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี